เปิดประสบการณ์พาน้องไปทำจมูกครั้งแรกในชีวิตกับหมออั้มที่ธนพรคลินิก
สวัสดีค่ะสาวๆ บล็อกนี้เจนขอมาเอาใจสาวๆที่กำลังคิดจะไปทำศัลยกรรม สิ่งแรกที่หลายคนจะเริ่มต้นทำเลยคือการทำจมูก ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เจนก็คิดจะทำมาตลอดแต่ใจยังไม่กล้าพอ แต่ๆเนื่องจากว่าน้องสาวเจนเองบ่นอยากทำมานาน เจนก็เลยจัดให้ บล็อกนี้จึงถือโอกาสเอาจมูกน้องมารีวิวแทนไปซะเลย ตอนแรกก่อนไปทำก็ให้น้องไปหาข้อมูลเยอะมากตามสไตล์คนตื่นเต้น สุดท้ายเจนก็พานางมาปรึกษาคุณหมอที่ธนพรคลินิก เพื่อคุยกับคุณหมอก่อนตอนนั้นยังไม่ตัดสินใจนะคะ แต่คุยแล้วรู้สึกว่าคุณหมอโอเคมากอธิบายและตอบทุกคำถามที่เราสงสัยได้หมด พูดถึงทรงก็แนะนำได้ดีและจริงใจมาก ไม่ใช่ว่าเรางอแงจะเอาทรงตามแบบรูปดาราที่เราเซฟมาก็ได้นะคะ ไม่ได้ค่ะ คุณหมอเค้าวิเคราะห์รูปทรงจมูกที่เหมาะกับหน้าไว้ตั้งแต่เห็นหน้าคนไข้แล้ว แล้วเราก็โอเคกับคำแนะนำทุกอย่างจนเกิดอาการคลิ๊กเลยว่าคุณหมอคนนี้แหละ ที่ธนพรคลินิกนี่แหละเวิร์ค กลายเป็นตัดสินใจทำกับคุณหมอและนัดคิวเลย
ก่อนทำเจนอยากให้ดูก่อนว่าน้องของเจน (ชื่อน้องดิว) ดูรวมๆแล้วเป็นคนที่มีเนื้อจมูกอยู่แล้ว อาจจะยังไม่โด่งมาก แต่ก็ถือว่าไม่ได้มีน้อยเลย แต่ขาดแค่ทรงที่ยังไม่สวยและสันยังไม่คมเท่านั้นเอง ส่วนอื่นรวมไปถึงรูปหน้าไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเลย แค่จมูกเป็นทรงอย่างเดียวก็จะสวยแล้ว
เพราะฉนั้นภารกิจทำสวยครั้งนี้รับรองว่าน้องดิวต้องปังแน่นอน!! บล็อกนี้บอกเลยว่าละเอียดและค่อนข้างยาวมากนะคะ เพราะเจนอยากให้น้องดิวเป็นคนเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของน้องเอง จะได้เข้าถึงความรู้สึกของคนที่ทำศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิต เจนให้น้องเก็บภาพ(เท่าที่เก็บได้)และอธิบายอย่างละเอียดทุกขั้นตอน เชิญสาวๆติดตามได้เลยค่ะ
ดิวจะมาเล่าประสบการณ์การเสริมจมูกครั้งแรกในชีวิตกับธนพรคลินิก สาขารัชโยธิน ซึ่ง2เดือนก่อนหน้านี้ดิวได้ค้นคว้าหาข้อมูล ดูรีวิวมาเยอะพอสมควร และวันนี้คือ
วันผ่าตัด
วันที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต
วันผ่าตัด
วันที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต
พอไปถึงก็นั่งกรอกประวัติก่อน เนื่องจากครั้งที่แล้วไปปรึกษาคุณหมออีกท่านที่สาขาตรงเดอะมอลล์บางกะปิ
เข้าไปคุยกับคุณหมอ คุณหมอชื่อหมออั้มนะคะ หมออั้มก็แนะนำว่าทรงจมูกที่ได้จะไม่สูงมากเพราะดิวมีเนื้อจมูกค่อนข้างน้อย
ซิลิโคนที่ใช้เป็นแบบ PDMS แบบนิ่มพิเศษลดการทะลุของจมูก ซึ่งเป็นซิลิโคนที่ดีที่สุด และผ่าตัดด้วยเทคนิคทางการแพทย์เกาหลีใหม่ล่าสุด MIR (Minimal Invasive Rhinoplasty) เทคนิคพิเศษที่จะช่วยลดอาการบวมช้ำได้ดี และมีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก
หลังจากนั้นคุณหมอก็ให้ทานยาฆ่าเชื้อยาลดปวดและยาลดบวมและให้ล้างหน้าเพื่อฆ่าเชื้อ ก่อนทานก็ฟังพี่พนักงานคนสวยแนะนำวิธีการทานยาและทำความสะอาดแผลอย่างละเอียด
ยา โลชั่นทำความสะอาดผิวหน้า และไฮโดรเจนทำความสะอาดแผลที่ได้กลับบ้าน
คุณหมอให้ทานยาติดต่อกันประมาณ 10 วัน
ภูมิใจมากยาเต็มถุงเลยยยย
สถานีต่อไปก็คือการล้างหน้า พี่ผู้ช่วยจะพาขึ้นไปล้างหน้าชั้นบน เพื่อเตรียมความพร้อม
สบู่สำหรับล้างหน้าก่อนผ่าตัด แค่เห็นก็ใจเต้นแรงแล้ว
ใส่เสื้อคลุม กายพร้อมใจพร้อม เราทำได้ สู้!
พอทานยาและล้างหน้าเสร็จพี่ผู้ ช่วยคุณหมอก็จะพาไปห้องผ่าตัด จากนั้นเช็ดทำความสะอาดจมูก พนักงานน่ารักมากบอกทุกขั้ นตอนว่ากำลังจะทำอะไร ตอนเช็ดหน้าแสบนิดนึง ตอนนั้นกลัวมากพนักงานก็ พยายามชวนคุยให้เราไม่กลัว
หลังจากเช็ดทำความสะอาดจมูกเสร็ จ นอนทำใจซักพักคุณหมอก็เข้ ามามาร์คจุด
คุณหมอมืออาชีพมากๆคือแบบเข้ ามาหยิบเมจิกจิ้มๆ พอมาร์คจุดเสร็จคุณหมอหยิบเข็ มยาชาจ้าา ตอนนั้นความรู้สึกแบบเอาละวุ้ ยจุดที่เจ็บที่สุดที่ทุกคนบอกมั นกำลังจะมาถึงแล้ว
จากนั้นค่ะเข็มนั้นก็แทงเข้ ามาที่จมูกทันที หมอมือเบามากกกกกก และเข็มก็แหลมมากเช่นกัน รู้สึกเจ็บจี้ดมีน้ำตาซึมเล็กน้ อย แต่พอยาชาเริ่มออกฤทธิ์ทุกอย่ างเริ่มดีขึ้น ไร้ความรู้สึก ชิลแล้วสบายๆ ผู้ช่วยคุณหมอบอกรอยาชาออกฤทธิ์ 10นาที ระหว่างนั้นคุณหมอก็ชวนคุยถึ งทรงจมูกความโด่งบลาๆๆ
ครบ10นาทีปุ้บคุณหมอก็เริ่มเปิ ดแผล
ซึ่งตอนนั้นไร้ความรู้สึกไปแล้ว แต่ได้ยินเสียงกึกๆรู้สึกจั๊กจี้ เสียวๆ แต่คิดว่าน่าจะกำลังขูดกระดู กหรือคว้านเพื่อใส่ซิลิโคน
จากนั้นหมอก็ให้ส่องกระจกดูจมู กทรงก่อนทำ ผ่านไปแปปเดียวหมอใส่ซิโคนเข้ าไปตัดแต่งนู่นนี่เสร็จก็ให้ส่ องกระจกดูว่านี่คือทรงที่ได้ พอใจมั้ย คือจะบอกว่าพอใจมากสวยโ่ด่งกำลั งดี
เสร็จปุ้ปคุณหมอก็เย็บปิ ดแผลบอกอีกทีว่าหมออั้มมื อเบามากค่ะใช้เวลาในการทำประมาณ 10 นาที
จากนั้นก็ ทำความสะอาดแผลประคบเย็น คือพนักงานทุกคนน่ารั กมากๆแนะนำตลอดวิธีการประคบ การเลือกทานอาหาร การทานยา การเช็ดแผล ทำความสะอาดแผลเสร็จก็ออกมาส่ องกระจกบานใหญ่คือตกใจมากตรงสั นจมูกเขียวและขาวจนซีดเนื่ องจากขูดกระดูกช่วงนั้ นออกโดยรวมช้ำน้อย ทรงจมูกที่ได้ชอบมากส่องแล้วส่ องอีกคือคิดในใจยุบแล้วจะเป็นยั งไง
หลังทำเสร็จสดๆร้อนๆ ไม่เจ็บไม่ปวด
ภาพก่อนทำและหลังทำ ภูมิใจมีดั้งแล้วววว คราวนี้ก็ถึงเวลากลับมาบ้านดูแลตัวเองค่ะ
วันที่1 บวมเปล่ง
ด้านหน้า หน้าโหดมั้ยล่ะ
ด้านข้าง โดยรวมเริ่มบวมจากวันแรกนิดหน่อย เริ่มดึงตาเล็กน้อย มีเพื่อนๆแนะนำให้ดื่มน้ำมะพร้าวและใบบัวบกแบบแคปซูล ก็จัดหนักไปเลยค่ะ
วันที่2พีคสุดคือบวมที่สุด บวมชนิดที่ว่าอวตายังเรียกไปเล่นหนังด้วย บวมป๊ายยยย และวันที่ 3,4,5,6 และ 7 อาการบวมค่อยๆยุบลุงเรื่อยๆ รอยช้ำรอยเขียวค่อยๆจากลง จากนั้นประมาณ 9 วันครบกำหนดวันตัดไหม คุณหมอนัดในวันพุธที่ 28 ธ.ค.59
วันที่ 9 ตัดไหม
วันที่ 9 ตัดไหม
พอมาถึงคลินิกก็นั่งรอคุณหมอ ถึงคิวปุ้บพี่ผู้ช่วยก็เชิญไปนอนรอที่ห้องตัดไหม ในใจตุ้มๆต่อมๆกลัวว่ามันจะเจ็บ เพราะมันมีคำว่า"ตัด" ระหว่างรอคุณหมอพี่ผู้ช่วยก็ทำความสะอาดแผลให้ ชมว่าเราทำความสะอาดแผลดีไม่มีคราบเลือดเลย จากนั้นคุณหมอก็เข้ามาในห้องและเริ่มบรรเลงส่องไฟคีบกรรไกรตัดให้ขาดเลยชั้บๆๆ เสร็จแล้วค่ะ เสร็จแล้วหรอ ไวมากคือแบบเสร็จแล้วจริงอะ ยังไม่รู้สึกอะไรเลย
ภาพหลังตัดไหมเสร็จ ไม่มีความเจ็บใดๆตัดไหมจิ้บๆมาก พี่ผู้ช่วยก็บอกว่าวันนี้จะฉายแสงสีเหลืองเพื่อช่วยลดอาการบวม จะทำจมูกยุบไวขึ้น

จะมีรอยตรงจมูกด้านขวามือ รอยนั้นเกิดจากการรัดตาตอนฉายแสง น่าจะรัดแรงไปหน่อย
ในตอนฉายแสงบอกเลยว่าสบายมาก ลืมบอกว่าฉายแสงสีเหลืองประมาณ 10 นาทีนะคะ แอบงีบไปแปปนึงระหว่างทำ พอครบ 10 นาที พี่พนักงานอีกท่านก็นำเครื่องออกจากหน้าและทำการทำครีมบำรุงและกันแดดให้ เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ จากรูปจะเห็นว่าตรงสันจมูกและบริเวณที่คุณหมอขูดกระดูกออกยังมีรอบช้ำและปีกจมูกยังบวมอยู่
วันที่ 18 แต่งหน้า ออกจากบ้าน
วิธีการดูแลตัวเอง หลังจากกลับมาบ้านคือต้ องนอนหมอนสูงตลอดเป็นเวลา 7 วัน ประคบเย็นหลังจากทำเสร็จ 24 ชั่วโมง จากนั้นประคบอุ่นติดต่อกันจนกว่ าจะนัดตัดไหม
ประคบทั้งวันวนไป ติดหมอนรองคอมาก เพราะทุกคนบอกว่าอย่านอนเอี ยงระวังเบี้ยว คือกลัวเบี้ยวไม่ว่ าจะทำอะไรคอจะต้องเชิ่ ดและตรงตลอด คือจะระวังเรื่องนี้มากเป็นพิ เศษ
ลูกประคบก็ใช้ลูกโป่งใส่น้ำแล้ วแช่ช่องฟรีสพอแข็งตัวก็ เอามาประคบ แต่วิธีนี้ใช้ได้กับประคบเย็ นเท่านั้นน้า ประคบอุ่นดิวใช้ไข่ต้มปลอกเปลื อกนำมาประคบบริเวณจมูกค่ะ พอไข่ต้มหายอุ่นก็นำไปแช่น้ำร้ อนแล้วประคบต่อค่ะ ทำวนไปจนกว่าจะสวย
ส่วนเรื่องอาหารการกิน ก็ระวังมากเช่นกัน งดไข่ งดอาหารทะเล ไม่กินเผ็ด เพราะจะทำให้แผลหายช้าและมีน้ำ มูก กินน้ำมะพร้าวเยอะมากกกกและก็ ทานใบบัวบกแบบแคปซูลทุกวันเช่ นเคย กลัวจะช้ำในก็ทานวนไปค่ะ ทานไปจนกว่าจะหาย
วันที่ 18 แต่งหน้า ออกจากบ้าน
และหลังจาก 20 วันไปแล้ว
เปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงให้ดูอีกครั้งชัดๆว่าดีขึ้นแค่ไหน
คำถามที่พบบ่อยมากกกก ก.ไก่ล้านตัวคือ
1.ทำมาเท่าไหร่?
ตอบ ดิวทำจมูกมาในราคา 27,000 บาท บอกเลยว่าคุ้มค่ากับซิลิโคนที่ได้มามาก เพราะซิลิโคนที่ใช้เป็นแบบ PDMS แบบนิ่มพิเศษลดการทะลุของจมูก ซึ่งเป็นซิลิโคนที่ดีที่สุดค่ะ
2.เจ็บมั้ย?
ตอบ เจ็บแค่ฉีดยาชา หลังจากนั้นสบายมากลืมไปเลยว่าทำมา แต่เอาจริงๆนะคนที่เคยผ่าฟันคุดมาจะแบบชิลเวอร์อะ เจ็บกว่าฉีดยาชาก็ผ่าฟันคุดแหละแกเอ้ย
3.ทำที่ไหน?
ตอบ ทำที่ธนพรคลินิก สาขารัชโยธินค่ะ แต่จริงๆมีหลายสาขานะสามารถเลือกทำสาขาใกล้บ้านของแต่ละคนได้ต้องลองเข้าไปปรึกษาและนัดวันดูก่อนนะคะ
4.หมออะไรดี?
ตอบ เค้าว่ากันว่าถ้าจะทำจมูกควรทำกับหมออั้มนะ กระซิบว่าหมออั้มมือเบามาก
5.ระยะเวลาในการผ่าตัดนานมั้ย?
ตอบ ไม่นานเลยแก 10 นาที ตาไม่ฝาดแก 10 นาทีจริงๆ ลืมตาปุ้ปดั้งก็มาแล้วจ้า 10 นาทีชีวิตเปลี่ยน
นี่ก็เป็นคำถามที่พบบ่อยมากถึงมากที่สุดตลอดระยะเวลากว่า 20 วันหลังจากทำจมูกมา
สุดท้ายถ้าถามถึงความพอใจหลังจากทำมานั้นบอกได้เลยว่า พอใจขั้นสุด รู้สึกว่าหน้าฝรั่งขึ้น หน้าเปลี่ยน ถ่ายรูปไม่ต้องเอียงคอเพื่อหาดั้งอีกต่อไป ทรงจมูกรับกับหน้าพอดี ตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ทำและให้หมออั้มเลือกทรงจมูกให้ ปลื้มมมมมมมค่ะ ยังไงก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจทำจมูกอยู่ ณ ตอนนี้นะคะ ขอให้สวย ขอให้ปังนะคะ ☺
สุดท้ายนอกจากธนพรคลินิกจะทำศัลยกรรมความงามแล้วยังมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกด้วยบอกว่าของเค้าดีเพราะผ่านแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญมาแล้วว่าปลอดภัย เจนได้ลองใช้เองแล้วเป็นตัว Hydrate Clarifying Lotion เช็ดทำความสะอาดผิวป้องกันการเกิดสิวแล้วยังทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นด้วย และอีกตัวเป็น Physioderm Intensive Moisturizing Cream เป็นมอยส์เจอร์สูตรอ่อนโยนที่คนผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ ตัวนี้จะช่วยปกป้องและฟื้นบำรุงผิวที่ถูกทำร้าย พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย ใช้ร่วมกันคือเวิร์กมากๆค่ะ หากใครสนใจสอบถามได้ที่ธนพรคลินิกนะคะ :)
ตอบ ดิวทำจมูกมาในราคา 27,000 บาท บอกเลยว่าคุ้มค่ากับซิลิโคนที่ได้มามาก เพราะซิลิโคนที่ใช้เป็นแบบ PDMS แบบนิ่มพิเศษลดการทะลุของจมูก ซึ่งเป็นซิลิโคนที่ดีที่สุดค่ะ
2.เจ็บมั้ย?
ตอบ เจ็บแค่ฉีดยาชา หลังจากนั้นสบายมากลืมไปเลยว่าทำมา แต่เอาจริงๆนะคนที่เคยผ่าฟันคุดมาจะแบบชิลเวอร์อะ เจ็บกว่าฉีดยาชาก็ผ่าฟันคุดแหละแกเอ้ย
3.ทำที่ไหน?
ตอบ ทำที่ธนพรคลินิก สาขารัชโยธินค่ะ แต่จริงๆมีหลายสาขานะสามารถเลือกทำสาขาใกล้บ้านของแต่ละคนได้ต้องลองเข้าไปปรึกษาและนัดวันดูก่อนนะคะ
4.หมออะไรดี?
ตอบ เค้าว่ากันว่าถ้าจะทำจมูกควรทำกับหมออั้มนะ กระซิบว่าหมออั้มมือเบามาก
5.ระยะเวลาในการผ่าตัดนานมั้ย?
ตอบ ไม่นานเลยแก 10 นาที ตาไม่ฝาดแก 10 นาทีจริงๆ ลืมตาปุ้ปดั้งก็มาแล้วจ้า 10 นาทีชีวิตเปลี่ยน
นี่ก็เป็นคำถามที่พบบ่อยมากถึงมากที่สุดตลอดระยะเวลากว่า 20 วันหลังจากทำจมูกมา
สุดท้ายถ้าถามถึงความพอใจหลังจากทำมานั้นบอกได้เลยว่า พอใจขั้นสุด รู้สึกว่าหน้าฝรั่งขึ้น หน้าเปลี่ยน ถ่ายรูปไม่ต้องเอียงคอเพื่อหาดั้งอีกต่อไป ทรงจมูกรับกับหน้าพอดี ตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ทำและให้หมออั้มเลือกทรงจมูกให้ ปลื้มมมมมมมค่ะ ยังไงก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจทำจมูกอยู่ ณ ตอนนี้นะคะ ขอให้สวย ขอให้ปังนะคะ ☺
สุดท้ายนอกจากธนพรคลินิกจะทำศัลยกรรมความงามแล้วยังมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกด้วยบอกว่าของเค้าดีเพราะผ่านแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญมาแล้วว่าปลอดภัย เจนได้ลองใช้เองแล้วเป็นตัว Hydrate Clarifying Lotion เช็ดทำความสะอาดผิวป้องกันการเกิดสิวแล้วยังทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นด้วย และอีกตัวเป็น Physioderm Intensive Moisturizing Cream เป็นมอยส์เจอร์สูตรอ่อนโยนที่คนผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ ตัวนี้จะช่วยปกป้องและฟื้นบำรุงผิวที่ถูกทำร้าย พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย ใช้ร่วมกันคือเวิร์กมากๆค่ะ หากใครสนใจสอบถามได้ที่ธนพรคลินิกนะคะ :)
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment